ราคาของกองทรัสต์อาจได้รับผลกระทบจากสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์และอัตราดอกเบี้ย
การเลือกกองทุนการลงทุนควรขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ ดังนั้นจงระบุเป้าหมายให้ชัดเจนเพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด
ประเภทของกองทุนการลงทุน: ตารางเปรียบเทียบ
มาดูการเปรียบเทียบประเภทกองทุนการลงทุนต่าง ๆ พร้อมรายละเอียดคุณสมบัติของแต่ละแบบ
ประเภทกองทุน | สินทรัพย์และกลยุทธ์ทั่วไป | ระดับความเสี่ยง | สภาพคล่อง | กลุ่มเป้าหมาย |
กองทุนรวม (Mutual Funds) | หุ้น พันธบัตร หรือสินทรัพย์ผสม กลยุทธ์อาจเป็นแบบเชิงรุกหรือเชิงรับก็ได้ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ | ขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ กองทุนหุ้นมาพร้อมกับความเสี่ยงสูงในขณะที่กองทุนพันธบัตรมักมีความเสี่ยงต่ำกว่า เป็นต้น | มีสภาพคล่องสูง (สามารถซื้อขายได้ทุกวันตามราคาสินทรัพย์สุทธิ) | นักลงทุนรายย่อยหรือสถาบันการเงินทั่วไป |
กองทุนดัชนี (Index Funds) | ติดตามดัชนีตลาด (หุ้นหรือพันธบัตร) | ความเสี่ยงเท่ากับตลาด (เช่น กองทุน S&P 500 มีความเสี่ยงเท่าตลาดหุ้น) | สภาพคล่องสูง (ซื้อขายรายวัน) | นักลงทุนรายย่อยหรือสถาบันการเงินทั่วไป |
กองทุนรวมดัชนี (ETFs) | มีสินทรัพย์หลากหลาย เช่น หุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า สกุลเงินต่าง ๆ ฯลฯ | แตกต่างกัน (ขึ้นอยู่กับดัชนีและสินทรัพย์) | มีสภาพคล่องสูงมาก (ซื้อขายภายในวันในตลาดหลักทรัพย์) | นักลงทุนรายย่อย รวมถึงเทรดเดอร์ และสถาบันการเงิน |
กองทุนตลาดเงิน (Money Market Funds) | ตราสารหนี้ระยะสั้นของรัฐบาลและบริษัท รายการเทียบเท่าเงินสด | ความเสี่ยงต่ำ (เน้นรักษาทุน) | สภาพคล่องสูง (ถอนได้ตลอดเวลา) | นักลงทุนรายย่อย (จัดการเงินสด) หรือบริษัทขนาดใหญ่ |
กองทุนเฮดจ์ฟันด์ (Hedge funds) | มีสินทรัพย์หลากหลาย เช่น หุ้นระยะสั้น/ระยะยาว อนุพันธ์ กลยุทธ์ Global Macro ฯลฯ การบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง | มีความเสี่ยงสูง (ใช้เลเวอเรจและกลยุทธ์ที่ซับซ้อน) | สภาพคล่องต่ำ (มีระยะล็อกและถอนเงินเป็นช่วง ๆ) | นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญและสถาบันการเงิน (เฉพาะกลุ่ม) |
กองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity Funds) | การลงทุนในหุ้นบริษัทเอกชน (การซื้อกิจการ, ทุนร่วมลงทุน) บริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง | ความเสี่ยงสูง (รวมถึงความเสี่ยงของบริษัท/ธุรกิจ, การซื้อกิจการด้วยเลเวอเรจ) | สภาพคล่องต่ำมาก (เงินทุนถูกล็อคไว้เป็นเวลา 7-10+ ปี) | สถาบันการเงินและบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูง (เฉพาะกลุ่ม) |
กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) | การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสินเชื่อที่อยู่อาศัย (มีโครงสร้างกองทรัสต์ตามกฎหมาย) | ปานกลาง (มีความเสี่ยงจากตลาดอสังหาริมทรัพย์: ราคาอาจผันผวน) | สูงสำหรับกองทรัสต์ภาคภาครัฐ (เทรดเหมือนหุ้น); ต่ำสำหรับกองทรัสต์ภาคเอกชน | นักลงทุนรายย่อย (ผ่านกองทรัสต์ภาครัฐ) สถาบัน (ประกันภัย บำนาญ) |
กองทุนการลงทุน: คำถามที่พบบ่อย
การลงทุน 4 ประเภทหลักมีอะไรบ้าง?
หุ้น (ตราสารทุน)
พันธบัตร (ตราสารหนี้)
เงินสดหรือสิ่งที่เทียบเท่าเงินสด (เช่น เงินฝากออมทรัพย์, ตราสารตลาดเงิน)
อสังหาริมทรัพย์ (สิทธิครอบครอง)
บางแหล่งอาจรวมสินค้าโภคภัณฑ์หรือสินทรัพย์ทางเลือก (เช่น สกุลเงินดิจิทัล) เป็นประเภทที่แยกออกไป แต่ประเภทหลักก็ตามที่ระบุไว้ข้างต้น
กองทุนการลงทุนสร้างรายได้อย่างไร?
กองทุนการลงทุนสร้างรายได้ผ่าน 2 วิธีหลัก:
กำไรจากทุน หากมูลค่าสินทรัพย์ในกองทุนเพิ่มขึ้น มูลค่ากองทุนก็จะสูงขึ้น นักลงทุนสามารถขายหน่วยลงทุนเพื่อทำกำไรได้
เงินปันผลหรือดอกเบี้ย กองทุนบางประเภทจ่ายผลตอบแทนจากหุ้น (เงินปันผล) หรือพันธบัตร (ดอกเบี้ย) ให้กับนักลงทุน
กองทุนการลงทุนมีความเสี่ยงหรือไม่?
ข้อควรจำ: ทุกเครื่องมือการลงทุนมีความเสี่ยง แต่ระดับความเสี่ยงขึ้นอยู่กับประเภทของกองทุน
ตัวเลือกความเสี่ยงต่ำ: กองทุนตลาดเงินหรือกองทุนพันธบัตร
กองทุนที่มีความเสี่ยงปานกลาง: กองทุนผสม (รวมหุ้นและพันธบัตร) หรือกองทุนดัชนี
ตราสารที่มีความเสี่ยงสูงที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ: กองทุนเฮดจ์ฟันด์, กองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์, กองทุนเฉพาะกลุ่ม
การกระจายการลงทุนและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทำกำไร
ฉันต้องใช้เงินเท่าไรในการเริ่มลงทุนในกองทุน?
ขึ้นอยู่กับประเภทกองทุน กองทุนรวมบางประเภทใช้เงินขั้นต่ำในการลงทุน $500 หรือ $1000 ในขณะที่ ETF สามารถซื้อได้ด้วยราคาต่อหนึ่งหน่วยเท่านั้น
ฉันจะเลือกกองทุนการลงทุนที่เหมาะสมได้อย่างไร?
ให้พิจารณาสิ่งต่อไปนี้:
เป้าหมายหลักของคุณ คุณเน้นการเติบโตระยะยาว รายได้ประจำ หรือความมั่นคง?
ความเสี่ยงที่คุณรับได้ คุณรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ หรือชอบทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด?
ค่าธรรมเนียม คุณพร้อมจ่ายค่าธรรมเนียมเท่าไร?
ผลประกอบการกองทุน ดูผลตอบแทนในอดีต แต่นึกไว้เสมอว่าผลประกอบการที่ผ่านมาไม่ได้รับประกันผลลัพธ์ในอนาคต
กองทุนดัชนีและ ETF เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมต่ำและมีการกระจายความเสี่ยงที่หลากหลาย
สรุป
โลกของกองทุนลงทุนมีความหลากหลาย ทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพต่างหาตัวเลือกที่เหมาะได้ ผู้เริ่มต้นอาจเลือก ETF หรือกองทุนรวมเพื่อเริ่มต้นง่ายๆ ส่วนนักลงทุนประสบการณ์สูงที่ต้องการผลตอบแทนเพิ่มหรือลงทุนในสินทรัพย์เฉพาะทาง อาจเลือกเครื่องมือซับซ้อนอย่างกองทุนเฮดจ์ฟันด์หรือกองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ การวิเคราะห์และทำความเข้าใจตลาดจะช่วยให้ตัดสินใจดีขึ้น และสร้างพอร์ตการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและระดับความเสี่ยง
FBS คือโอกาสของคุณที่จะได้รับประโยชน์จากการเทรด: เข้าร่วมตอนนี้!