ภาพรวมตลาด
การที่มาร์ค คาร์นีย์ชนะการเลือกตั้งในแคนาดา แม้จะได้จัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบเสียงข้างน้อย แต่ก็สะท้อนถึงแรงสนับสนุนจากประชาชนต่อแนวทางเศรษฐกิจที่ยืนหยัดสู้กับแรงกดดันจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะในประเด็นสงครามการค้า ความตั้งใจของคาร์นีย์ในการรักษาอธิปไตยด้านทรัพยากรธรรมชาติและนโยบายเกษตรกรรมของแคนาดา แสดงให้เห็นถึงท่าทีที่แข็งกร้าวและไม่ประนีประนอมต่อข้อเรียกร้องของวอชิงตัน ซึ่งในระยะสั้นอาจส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์แคนาดา (CAD) จากความกังวลของตลาด อย่างไรก็ตาม ท่าทีที่ชัดเจนและมั่นคงของผู้นำคนใหม่กลับสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวต่อนักลงทุนในตลาดทุนและตลาดเงิน โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กำลังสูญเสียสถานะในฐานะสกุลเงินปลอดภัย (safe haven) เนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากปัจจัยทางการเมืองและการคลังภายในประเทศ
เศรษฐกิจแคนาดายังอยู่ในช่วงเปราะบางจากผลกระทบของสงครามการค้าในระยะสั้น แต่รัฐบาลใหม่ได้แสดงความพร้อมในการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่และมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งน่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจพื้นฐานให้สามารถฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด เช่น ยอดขายปลีกที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนมีนาคม รวมถึงการใช้จ่ายล่วงหน้าจากภาคครัวเรือนที่ยังทรงตัว แสดงถึงความยืดหยุ่นของผู้บริโภค แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะอ่อนตัวลง และตลาดแรงงานยังคงซบเซาอยู่บ้างก็ตาม อย่างไรก็ดี แผนการใช้จ่ายจากภาครัฐอาจมีบทบาทในการบรรเทาแรงกดดันภายในประเทศ ซึ่งอาจช่วยพยุงค่าเงิน CAD ให้กลับมาแข็งค่าขึ้นได้เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะกลางถึงระยะยาว
ในทางกลับกัน ดอลลาร์สหรัฐฯ เองกำลังเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงความกังวลในเรื่องความสามารถของสหรัฐฯ ในการรักษาสถานะ "safe haven" ท่ามกลางภาวะเสี่ยงทั่วโลก นักลงทุนบางส่วนเริ่มกระจายการถือครองออกจากดอลลาร์สหรัฐฯ ไปยังสินทรัพย์ปลอดภัยอื่น เช่น เงินเยนของญี่ปุ่นและทองคำ ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่มีความเสี่ยงด้านการคลัง กลับส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินโดยรวมของระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และอาจกลายเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโตในระยะต่อไป ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่เริ่มเอนเอียงไปในทางลบเช่นนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯ จึงมีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากตลาดเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเมื่อพิจารณาในเชิงเปรียบเทียบแล้ว คู่เงิน USDCAD จึงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงได้อีกในระยะใกล้ หากไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามาช่วยพลิกแนวโน้มของดอลลาร์ให้กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
USDCAD
USDCAD ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่องในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง (H4) โดยราคายังแกว่งตัวภายในกรอบแคบสีแดง ซึ่งเป็นโซนที่สะท้อนถึงการสะสมของแรงซื้อและแรงขาย แต่ยังไม่ปรากฏสัญญาณที่ชัดเจนว่าราคาจะสามารถทะลุออกจากกรอบดังกล่าวขึ้นไปได้อย่างมั่นคง ประกอบกับการที่เส้นแนวโน้มขาลง (Trendline) จากด้านบนยังคงทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่กดดันราคาตลอดช่วงที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำข้อจำกัดของการกลับตัวเป็นขาขึ้นในระยะสั้น ในด้านของโมเมนตัม ค่า RSI ปัจจุบันอยู่บริเวณ 45.00 ซึ่งแม้จะยังไม่เข้าสู่เขตขายมากเกินไป แต่ก็ยังสะท้อนว่าแรงซื้อยังไม่แข็งแรงพอที่จะผลักดันราคากลับเข้าสู่ภาวะขาขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน ค่า MACD ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับศูนย์ โดยที่เส้น MACD และเส้นสัญญาณแทบไม่แยกตัวออกจากกัน บ่งชี้ถึงสภาวะไร้ทิศทางที่มีโอกาสสูงต่อการเลือกข้างลงมากกว่าขึ้นในระยะสั้น ดังนั้น ตราบใดที่ราคายังไม่สามารถทะลุกรอบสีแดงขึ้นไปได้อย่างชัดเจน และไม่สามารถผ่านแนวต้านจากเส้นเทรนด์ไลน์ด้านบนได้ แนวโน้มขาลงยังคงเป็นภาพหลักของตลาด โดยแนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1.43528 ขณะที่แนวรับถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1.35534 ซึ่งเป็นระดับที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะหากราคาหลุดกรอบลงต่ำกว่านี้ ก็มีโอกาสที่จะเร่งแรงขายลงไปทดสอบแนวรับดังกล่าวในระยะต่อไป
USDCAD (H4)
